วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวิติ ฟุตบอล

ต้นกำเนิด ฟุตบอล
ฟุตบอล หรือ ซอกเกอร์ เป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นระหว่างสองทีมโดยแต่ละทีมมีผู้เล่น11คน โดยใช้ลูกบอล เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก

มีบันทึกที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเริ่มเล่นฟุตบอลเอาไว้ เมื่อประมาณศตวรรษที่ 2 และ 3 แต่เดิมเริ่มเล่นจากการเค่แตะบอลกับตาข่ายเล็กๆ และมีเล่นกันเฉพาะในหมู่กองทหารของจีนเท่านั้น 

ก่อนหน้านั้น ในโตเกียวประเทศ ญี่ปุ่น มีการเล่นฟุตบอลกันบนพื้นหญ้า และมีการตีกรอบเส้น ซึ่งเรียกกันว่า "ball-kicking game" เกมเตะบอล 

ทั้งกรีซและโรมันยุคโบราณก็มีการเล่นฟุตบอลซึ่งมีการเล่นคล้ายกับฟุตบอลสมัยใหม่ แต่ในสมัยนั้นทีมนึงใช้ผู้เล่นได้มากสุดถึง 27 คน 

มันจึงเป็นการยากที่จะบอกว่าต้นกำเนิดของฟุตบอลมาจากที่ใดและเมื่อใด แต่มันก็เป็นเหตุผลที่รวมๆกันทำให้เกิดกีฬาฟุตบอลขึ้นในโลก และพัฒนาขึ้นตามยุคสมัยจนเป้นฟุตบอลที่เรารู่จักกันในปัจจุบัน และอาจจะมีการเล่นนี้เกิดขึ้นมาบนโลกมากกว่า 3000 ปีมาแล้ว 

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อังกฤษ เป็นต้นกำเนิดของฟุตบอลสมัยใหม่ ซึ่งอังกฤษและสก็อตแลนด์เป็นผู้สร้างเกมฟุตบอล 

ฟุตบอลหรือซ็อกเกอร์ที่เรียกกันในอังกฤษ เป็นกีฬาที่นิยมกันมาก และเริ่มเล่นกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 

แต่ในสมัยนั้น ฟุตบอลคือ "สงคราม


มีเรื่องเล่าว่า สถานที่แรกที่ฟุตบอลเริ่มเกิดขึ้นอยู่ทางตะวันออกของอังกฤษ ที่ซึ่งนักฟุตบอลทุกคนต้องเข้มงวด และเกรงต่อเจ้าชาย "เดนิส" ซึ่งพวกเขาต้องยอมแพ้ในการแข่งขัน 

เมืองและหมู่บ้าน จะต้องแข่งฟุตบอลกันเองระหว่าง เมืองหรือหมู่บ้าน การแข่งขัน ชก, ต่อย, เตะ, กัด ซึ่งสามารถทำได้และไม่มีข้อห้ามหรือบังคับ ทำให้ฟุตบอลกลายเป้นกีฬาที่ดูเหมือนป่าเถื่อน เพียงเพื่อพาลูกฟุตบอลไปยังจุดที่กำหนดให้ได้ 
การแข่งขันอาจใช้เวลาทั้งวัน 

ความรุนแรงนี้ทำให้ผู้มีอำนาจออกมาต่อต้านการเล่นฟุตบอล 


ในอังกฤษปี 1331 "พระราชา เอ็ดวาร์ดที่ 3" ได้พยายามออกกฎระงับเกี่ยวกับฟุตบอล 


ในสก็อตแลนด์ปี 1424 "พระราชา เจมส์ที่ 1" ได้มีประการศในรัฐสภาเกี่ยวกับฟุตบอลว่า "That na man play at the Fute-ball" (No man shall play football/soccer) 
ห้ามผู้ใดเล่นฟุตบอลอีกต่อไป. 


พระราชินี อลิซาเบทที่ 1 ของอังกฤษ ได้ออกกฎหมายสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนเล่นฟุตบอลเอาไว้ว่า 
จะต้องถูกจำคุก 1 สัปดาห์และจะต้องไปชำระบาปในโบสถ์ 

แต่ไม่มีกฎหมายใดที่จะห้ามไม่ให้เล่นฟุตบอลได้ในอังกฤษ... 

มันกลายเป็นกีฬาที่โด่งดัง 

ในปี 1815 โรงเรียนทีมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งบนเกาะอังกฤษ "Eton College" ได้ออกกฎระเบียบห้ามเล่นฟุตบอลจนกลายมาเป็นที่รู้จักกัน "The Cambridge Rules" (กฎแห่งเมืองแคมบริดจ์) และหลายโรงเรียนรวมทั้งมหาวิทยาลัยต่างนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในปี 1848 

ทำให้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งสนับสนุน "The Cambridge Rules" และอีกส่วนซึ่งมีบางโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอนุญาติให้มีการเล่นฟุตบอลได้หรือที่รู้จักกันว่า รักบี้ 

26 ตุลาคม 1863 
11 สโมสร และโรงเรียนในลอนดอน ได้ส่งตัวแทนเพื่อหารือเรื่องการจัดตั้ง วางรากเหง้าของฟุตบอล และได้ออกกฎระเบียบการเล่นฟุตบอลในหมู่ของพวกเขา 

จากการหารือกันครั้งนั้นจึงทำให้เกิด "The Football Association" สมาคมฟุตบอลขึ้น 

แต่ผู้ที่สนับสนุนรักบี้ไม่เห็นด้วยกับสมาคม ในที่สุด รักบี้และฟุตบอล จึงแยกออกจากกัน 

ในปี 1869 สมาคมฟุตบอลได้ออกกฏห้ามใช้มือ ในการเล่นฟุตบอล และนั่นกลายเป็นรากฐานของเกมฟุตบอลสมัยใหม่

สนามฟุตบอล

สนามฟุตบอลและขนาดมาตรฐาน
สนามฟุตบอลมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีความยาวระหว่าง 100-110 เมตร และความกว้างระหว่าง 64-75 เมตร โดยเส้นขอบสนามของด้านยาวจะเรียกว่า "เส้นข้าง" ขณะที่ขอบสนามของด้านกว้างจะเรียกว่า "เส้นประตู" โดยคานประตูจะตั้งอยู่กึ่งกลางบนเส้นประตู โดยมีความสูง 2.44 เมตร (8 ฟุต) เหนือจากพื้นดิน และเสาประตูจะห่างกัน 7.3 เมตร (8 หลา) เสาและคานประตูจะต้องมีสีขาว ตาข่ายจะมีการขึงด้านหลังประตู แต่อย่างไรก็ตามตาข่ายประตูไม่ได้มีกำหนดไว้ในกติกาสากล
ด้านหน้าประตูจะเป็นบริเวณเขตโทษ ซึ่งแสดงถึงบริเวณที่ผู้รักษาประตูสามารถถือบอลได้ และยังคงใช้ในการเตะลูกโทษ

ระยะเวลาการแข่งขัน

การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นสองครึ่ง โดยครึ่งละ 45 นาที โดยเวลาการแข่งขันจะมีการนับตลอดเวลา แม้ว่าฟุตบอลจะถูกเตะออกนอกสนามและกรรมการสั่งให้หยุดเล่นก็ตาม ระหว่างครึ่งจะมีเวลาพักให้ 15 นาที กรรมการจะเป็นคนควบคุมเวลา และจะทำการทดเวลาบาดเจ็บในช่วงท้ายของแต่ละครึ่งเพื่อทดแทนเวลาที่เสียไป ระหว่างการเล่น โดยเมื่อจบการแข่งขันกรรมการจะทำการเป่านกหวีดเพื่อหยุดการแข่งขัน
ในการแข่งขันแบบลีก จะมีการจบการแข่งขันสำหรับผลเสมอ แต่สำหรับการแข่งขันที่ต้องรู้ผลแพ้ชนะจะมีการต่อเวลาพิเศษ(ง่ายๆคือการแข่งชิงถ้วย) ซึ่งจะประกอบไปด้วย 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที โดยถ้าคะแนนยังคงเสมอกันจะมีการให้เตะลูกโทษ (ด้านการเตะลูกโทษมีคนวิจัยมาว่าทีมไหนเตะก่อนจะมีเปอร์เซนต์การชนะมากกว่าทีมที่เตะทีหลัง)
ไอเอฟเอบีได้ทดลองการกำหนดรูปแบบการทำคะแนนในช่วงต่อเวลาที่เรียกว่า โกลเดนโกล โดยทีมที่ทำประตูได้ก่อนในช่วงต่อเวลาจะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน และซิลเวอร์โกล โดยทีมที่ทำประตูนำเมื่อจบครึ่งเวลาแรกจะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน โดยโกลเดนโกลได้ถูกนำมาใช้ใน ฟุตบอลโลก 1998 และ ฟุตบอลโลก 2002 โดยมีการใช้ครั้งแรกในการแข่งขันทีมชาติฝรั่งเศส ชนะ ปารากวัย ในปี 1998 ขณะที่ซิลเวอร์โกลได้มีการใช้ครั้งแรกในฟุตบอลยูโร 2004 ซึ่งปัจจุบันโกลเดนโกล และซิลเวอร์โกลไม่มีการใช้แล้ว
กติกาฟุตบอล (อังกฤษThe Laws of the Game)[1] เป็นกฎและกติกาฟุตบอลสากลที่กำหนดโดยสมาคมฟุตบอล ในปัจจุบันมีทั้งหมด 17 ข้อ ดูแลโดยหน่วยงานไอเอฟเอบี
  • กฎข้อที่ 1: สนามฟุตบอล เป็นสนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 100 หลา ยาว 130 หลา และทำเส้นต่างๆ ในสนามเป็นสีขาวมีลักษณะตามภาพ
สนามฟุตบอล
  • กฎข้อที่ 2: ลูกฟุตบอล เป็นทรงกลม ทำจากหนัง หรือวัสดุอื่นๆ ตามความเหมาะสมที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่น เป็นฟุตบอลเบอร์ 5 มีเส้นรอบวงประมาณ 68-70 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 410-450 กรัม
  • กฎข้อที่ 3: จำนวนผู้เล่น ประกอบด้วยทีม 2 ทีม และแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นตัวจริงและตัวสำรอง ผู้เล่นตัวจริงจะเป็นผู้เล่นชุดแรกที่ลงสนาม ส่วนผู้เล่นตัวสำรองมีไว้เพื่อสับเปลี่ยนกับผู้เล่นตัวจริงในกรณีที่ผู้เล่นตัวจริงไม่สามารถเล่นได้หรือกรณีอื่นๆ ตามความเหมาะสมหรือตามแต่ดุลยพินิจของผู้จัดการทีม ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามต้องมีไม่ต่ำกว่า 7 คน และไม่เกิน 11 คน และหนึ่งในนั้นจะต้องมีผู้เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู 1 คน, ตัวสำรองสามารถมีได้ไม่เกิน 7 คน
  • กฎข้อที่ 4: อุปกรณ์การเล่น ได้แก่ ลูกฟุตบอล (ตามกฎข้อ 2) ใช้สำหรับเล่น 1 ลูก และเครื่องแบบของนักกีฬา ทีมทั้ง 2 ทีมที่ลงแข่งขัน สมาชิกทุกคนในทีมยกเว้นผู้รักษาประตูจะต้องใส่ชุดแข่งขันสีเดียวกัน และทั้ง 2 ทีมจะต้องใส่ชุดแข่งที่มีสีตัดกันอย่างชัดเจน จะใส่ชุดที่มีโทนสีคล้ายกันไม่ได้ (เช่น ทีมหนึ่งใสชุดแข่งสีขาว อีกทีมหนึ่งใส่ชุดแข่งสีเหลือง) ผู้รักษาประตูจะต้องใส่ชุดแข่งที่มีสีไม่ซ้ำกับผู้เล่นทั้ง 2 ทีม และนักกีฬาที่ทำการแข่งขันจะต้องใส่รองเท้า (ในปัจจุบันไม่อนุญาตให้นักกีฬาใช้เท้าเปล่าเล่น) ที่กล่าวมาเป็นอุปกรณ์การเล่นที่ต้องมีในการแข่งขัน ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่กติกาไม่บังคับแต่ผู้เล่นมักจะนิยมใช้กัน คือ สนับแข้ง, ถุงมือและหมวกสำหรับผู้รักษาประตู และยังมีอุปกรณ์ปลีกย่อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพที่สามารถอนุโลมให้ใส่ในเวลาลงเล่นได้ เช่น แว่นตา (สำหรับผู้ที่ได้รับการผ่าตัดทางตา), หน้ากาก, เฮดเกียร์ เป็นต้น
  • กฎข้อที่ 5: กรรมการ
  • กฎข้อที่ 6: ผู้ช่วยกรรมการ
  • กฎข้อที่ 7: ระยะเวลาการแข่งขัน
  • กฎข้อที่ 8: การเริ่มต้นการแข่งขัน
  • กฎข้อที่ 9: บอลออกนอกสนาม
  • กฎข้อที่ 10: วิธีนับคะแนน ถ้าลูกฟุตบอลลอยข้ามเส้นประตูเต็มใบ โดยการเล่นลูกที่ถูกกติกา (ได้แก่การใช้เท้าหรือศีรษะ) ถือว่าได้ 1 คะแนน (ในภาษาฟุตบอลเรียกว่า 1 ประตู) อย่างไรก็ดี มักมีคนเข้าใจผิดว่าการได้คะแนน คือ การที่ลูกบอลสัมผัสกับตาข่ายหลังเส้นประตู ซึ่งจริงๆ แล้วาข่ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกติกาฟุตบอล มีไว้เพื่อรองรับลูกบอลที่เข้าประตูแล้วเท่านั้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น